No Music No Life

นะริ นามิ

11 มีนาคม 2554 เป็นวันที่เกิดเหตุการณ์ที่สึนามิเข้ามาประเทศญี่ปุ่น ทำให้เกิดความเสียหายมากมายและก้เป็นเช้า สายๆ ของวันนี้ที่ ด.ญ. นะริ เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ในรอบครัว ทำให้อะไรๆดีๆเกิดขึ้นเช่นกัน



นะริมาไทย นามิมาญี่ปุ่น 11 มีนาคม 2554

ไทยเป็นไทย

กิจกรรมดีๆ ภายใต้ชื่อโครงการว่า SOMEWHERE THAI ที่ทุกคนสามารถแชร์เรื่องราว ความคิดต่างๆ โดยนักออกแบบสามารถถ่ายทอดออกมาได้ตามความถนัดของแต่ละท่านสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นี้

my flickr i like it !

ตั้งแต่ที่มีโอกาสใช้ web blog free ต่างๆ มากมายเช่น Multiply/Blogspot/portfolios.net/ และอื่นๆ อีกมากมายที่ไม่เคยใช้ก็ตาม โดยส่วนตัวแล้วรู้สึกพึ่งพอใจกับของเจ้า flickr แห่งค่าย Yahoo มากเป็นพิเศษ ด้วยเพราะหน้าตา Layoutที่เรียบง่าย งดงาม และไม่รบกวนด้วย Ad/Banner ต่างๆ มากๆ ทำให้ผลงานที่เราต้องการจำนำเสนอหรือแชร์ชาวบ้านนั้น ออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ชอบมากครับ ดูโปรจริงๆ

i love 00'S

10 ปี ผ่านไปอย่างรวดเร็วอีกแล้ว เร็วจริงๆ จำได้ว่า ครั้งที่ เข้าสู่ยุค 2000 ที่มีข่าวมาวาโลกจะแตก ระเปิด ตูมตาม ตอนนั้นจำได้อีกว่า เที่ยว ราตรีอยู่ที่ เชียงใหม่ สมัยนั้นยังอยู่ ปีสองเองด้วยมั่ง นี้ก็จะเข้าสู่ปี 2010 เพลงต่างๆ ในรอบ 10 ปีที่ฟังมาก็มากโขอยู่ แต่วิวัฒนาการของ เครื่องเล่นเพลงนี้สิ มันไปอย่างก้าว ก ร ะ โ ด ด มากๆ แล้วอีก 10 ปีข้างหน้าละ มันจะเป็นเครื่องมือ รับฟังในรูปแบบไหน หน้าตาเป็น หรือจะมีเพลงให้เราฟังอีกหรือป่าว : )

กินขนม ไม่หมด ปิดถุงไงดี

COOL ! *o*

หนูทำได้ (Magic Mouse)

วันนี้แอบตื่นเต้นเล็กน้อยที่ได้เห็น Mouse ตัวใหม่ของ Apple ได้มีโอกาสได้เข้าไปดูวิธีการใช้งาน แล้วยังแอบ ตื้นตันใจมิใช่น้อย อะไรมันชั่งเท่ห์ได้ขนาดนี้วะ จากประสบการณ์ส่วนตัวแล้วมักจะมีผมเป็นคนที่มักจะมีปัญหากับ Mouse มากๆ ในเรื่องของการทำความสะอาดก็ดี และ Scroll ไม่หมุนมั่งแระ จนได้มีโอกาสไปเจอวิธีการทำความสะอาดเข้าให้ (ขั้นชำแระ) ก็ค่อยยังชั่วขึ้นเยอะ ยังเคยคิดว่าจะเลิกใช้ Mouse ของ Apple ไปสักพักนึงเพราะเบื่อจริงๆ แต่ นาทีนี้เห็นทีจะต้องชื่นชมกับเจ้า Magic Mouse ตัวใหม่ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ Design, Functions และ ฯลฯ เท่ห์ สุดยอดเลยครับ แต่ติดแค่นิดเดียวเท่านั้นแระ หน้าตา ยังกะแผ่นอะไรสักอย่างที่แบบ บาง กระชับ แต่ไม่มีปีก

ก็มันคันนึ้ว้าาา สักคันว่ะ

หลังจากได้อ่าน overdrive จบ ก็เกิดการอยากจะ อยากจะ อยากจะ ปั่นจักรยานกัเค้ามั่ง จากคันเก่าที่เคยมี เป็นแบบ Mountain Bike 7 Speed แต่ก็หนักเหลือเกินคันนี้ เลยเริ่มมาหันสนใจ Road Bikes หรือที่บ้านเราเรียกว่าเสือหมอบ ได้มีโอกาสถามไถ่เพื่อนที่อยู่ใน วงการนี้ เพื่อนก็ได้แนะนำ Trek ก่อนเลย สำหรับผู้เริ่มต้นมันเค้าเล่าให้ฟังว่า สามารถเร่งสปีดได้ 80-110 กม. ต่อ ชัวโมงในทางลงเขา (เร็วเกิ๊น -*-) แต่ก้เอาว่าสิงห์นักปั่นหันไปดูราคาแล้วสูงมิใช่น้อย จะเก็บตังเอาให้ได้สักคันดู แต่จริงๆ แล้วเล็ง Trek 520 สวยมากๆ




แต่เพื่อความปลอดภัย ใส่หมวกด้วยครับ


ฟิ้ววววว ขึ้นรถเมล์เหมือนเดิม

Movie of September 2009

หนังเอเลี่ยน(เชิงสารคดี) ที่ดีที่สุดตั้งแต่ได้ดู(หนังเอเลี่ยน)มา ถ้าชอบแบบไซไฟ แอคชั่น บู๊ ยิงกันสั่นจอ พระเอกไม่ยอมตายง่าย บุกยึดโลก คอมพิวเตอร์กราฟฟิค อลังการงานสร้าง อย่าไปดู แต่ถ้าอยากดูหนังเอเลี่ยน ไซไฟ สะท้อนสังคม การแบ่งชนชั้น กดดัน ดราม่า หรือชอบอาหารแมว ไปดูเลย
ปล.ดูแล้วได้ความรู้สึกยังกะดู Black Hawk Downไงไม่รู้

ปิดท้ายด้วยภาพบางมุมของบ้านเรา ไม่ต่างจากบ้าน(เอเลี่ยน)เค้าเลย

ได้อย่างเสียอย่าง

เมื่อวานไปเดินๆ ร้านหนังสือเอเชียบุ๊ค เจอมาสะดุดตาเล่มนึง ชื่อ Paul Rand: Conversations with Students ในชีวิตนี้ชื่นชอบนักออกแบบอยู่ 3 คนด้วยกัน 1.Saul Bass 2.Paul Rand 3.Borvornrut Jangswangsri หยิบๆ เปิดดูหลายนาทีอยู่ เหลือเล่มสุดท้ายด้วยสิ แ่ด้านในก้ TEXT English ล้วนๆ เอานะซื้อไปค่อยๆอ่านๆดูๆ ก็ได้ถ้ามึงจะตัั้งใจจริงอะนะ แต่ด้วยความเคารพ ก็เดินออกมาไม่ได้ซื้อติดมือมา วนกลับมาหยิบ ดีไซน์+คัลเจอร์ โดย ประชา สุวีรานนท์ / สำนักพิมพ์ ฟ้าเดียวกัน ปกราคา 300 บาท แต่น่าประหลาดใจ ตรงที่เรายื่น Member Card พร้อมจ่ายตัง ในใจคิดว่าลด 10% ตามปกติ แต่ด้วยประการใด มิทราบทางร้านลด 50% เลยทีเดียว สบายกระเป๋า แหะๆ แต่นึกคิดอยู่ว่า Paul Rand: Conversations with Students ถ้าเราหยิบมามันจะลด 50% ป่าววะ เอานะคู่กันแล้วไม่แคล้วกัน....

หน้าตาเป็นเช่นนี้





แต่สิ่งที่ได้กลับมาเป็นเช่นนั้น



สบายใจ....

Movie of July 2009

วันเสาร์ผ่านมาได้มีโอกาส ดูหนัง 2 เรื่อง ควบแบบไม่ติดๆ
เรื่องแรก City of Men (นอนดูที่บ้าน) 7.5 ชอบ City of God มากก่า
เรื่องสอง Cape No.7 (นั่งดูที่House) 10++ สาวไต้หวันสาวกว่า เกาหลี ญี่ปุ่นเปนไหนๆ เห็นพระเอกแล้วคิดถึงเคนจิใน 20 century boy

มันก้บ้านทั้งสองเรื่องนี้ว้า แต่ต่างตรงที่ท่าทางและลีลาในการดู



ว่าด้วยเรื่อง เพื่อนผอง น้องพี่ และหุบเขา



ว่าด้วยเรื่อง สำนึกรักบ้านเกิด และดนตรี